DNF ที่ 4

ลังกาหลวง เมาน์เทน รัน

ความ dnf โป่งแยงไม่ทันหาย
ความชันลังกาหลวงก็มาแทรก

DNF วนไปสิครับ รออะไร

วันนี้มาเล่าให้ฟังครับ
ว่าขับรถไปกลับ กทม-เชียงใหม่ 1500 กิโลเมตร
แล้วมีปัญญาวิ่งแค่ 8+5 กิโลนิดๆ

เพื่อ.....?!!! 555

.
.
มาดูข้อมูลเบื้องต้นกันก่อน

ลังกาหลวง
เป็นดอยสูงอันดับ 8 ครับ สูง 2031 m จากระดับน้ำทะเล
ยอดเกิน 2000 บ้านเราไม่เยอะครับ

ถ้าบอกมีวิ่งขึ้น น่าไปไหมล่ะ
สายทัวร์ริ่งแบบผมตอบได้ทันที " ไปครับ!!"

สถานที่เริ่มต้นวิ่งคือ อุทยานแห่งชาติขุนแจ
การเดินทาง
ถ้าตั้งต้นจาก จากอำเภอดอยสะเก็ด ไปอำเภอเวียงป่าเป้า ขุนแจจะอยู่ค่อนไปทางเวียงป่าเป้า
.
.
Mountain run
"วิ่งขึ้นเขา" (จริงๆมีวิ่งลงด้วย ^^)
.
.
TET
ผู้จัด คือ ป๋าคมรัฐ หมออีม และทีมงานไทยเอเวอเรสต์

เท่าที่พอรู้ ทีมงานนี้ จัดงานวิ่งมาแล้ว 3 งาน
ทุ่งแสลงหลวง ธค 58
ลังกาหลวง กพ 59
หลวงพะเยา มิย 59

ผมได้เข้าร่วม หลวงพะเยาเป็นครั้งแรก
(ซึ่ง เป็นงานแรกที่ dnf
และเป็นคนสุดท้าย ที่ลากสังขารออกจากป่า - -; )

งานที่หลวงพะเยา ทีมงานได้ทำงานร่วมกับคนในพื้นที่ และหน่วยราชการเป็นอย่างดี นักวิ่งจองที่พักพักกันตามโอมสเตย์
ผมไปแบบมั่วๆ โฮมสเตย์เต็มหมดแล้ว แต่ชาวบ้านส่งข่าวต่อๆกัน ได้นอนบ้านกำนันซะอย่างงั้น

มาถึงงานลังกาหลวง 27 พย 59
วันรับ bib ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า..งานนี้ เป็นการทำงานร่วมกับอช. ซึ่งยังมีลักษณะเหมือนเดิม คือมีการทำงานร่วมกับคนในพื้นที่ได้ดี
( อันนี้มองจากสายตาคนนอกแบบผมนะ)

มีเลี้ยงมื้อเย็น ซึ่งทำกันเอง แต่อร่อยมากๆสมกับเป็นนักเดินป่า

จำนวนคนเข้าร่วมมีน้อย เพราะมีการ qualified นักวิ่ง และรับจำนวนจำกัด เพื่อไม่รบกวนแวดล้อมไปกว่าปกติ

ทางวิ่ง 36 km (โดยประมาณ) เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติของอุทยานครับ มีคนใช้ทางนี้เป็นประจำ
รวมกับทางถนน และทางชาวบ้าน

จุด cp ต่างๆ คือจุดที่ทีมงาน แบกเต็นท์ ไปนอนรอล่วงหน้า
“ แบก”อาหารและน้ำไปรอ ด้วยวิธีเดินเข้าไปเท่านั้น

สตาร์ทตีห้า
รวมพลตีสี่ มีอาหารเช้า(อีกแล้ว) ค่ายนี้ น้ำท่าสมบูรณ์เสมอครับ

พอออกวิ่ง
ฟ้ามืดตื๋อ เราวิ่งกันไปตามถนนใหญ่ประมาณ 3 km

แล้วเลี้ยวลงถนนเล็กๆ ที่ตัดขึ้นสถานีเรดาร์

ถ้าได้ยินว่าทางขึ้นสถานีเรดาร์ ไม่ว่าที่ไหน ให้รู้ได้เลยครับ ว่าชันแน่นอน เพราะทหารทำ ทหารใช้ ถ้ารถชาวบ้านแบบเราๆนี่ออกแรงกันนิด

ตอนวิ่งถนน ผมพยายามมาอยู่ประมาณคนที่ 20 จากท้าย

แต่พอไต่ขึ้นแป๊ปเดียว ทุกคนแซงไปหมด อาการเหนื่อยเริ่มมา ไอข้าวไข่เจียวอร่อยๆ ที่จ้วงเอาๆตรงเส้นสตาร์ท ก็ยังอยู่แถวคอหอย
- -”

สักพัก มีสองหนุ่ม เดินคุยชิลๆด้านหลัง ตอนแรกก็ยังไม่ได้คิดอะไร นึกว่านักวิ่งที่ยังรอๆเพือน
แต่พอหยุดให้แซง น้องบอก “พี่ ไปต่อเลยครับ”

เย้ย สวีปเปอร์มาจ่อติดแล้ว แถมข้างหลัง ส่องไฟสว่างโร่ คือกระบะของป๋าคมรัฐ และทีมงานทั้งทีม

นี่ตรูเป็นเด็กสร้างอีกแล้วสินะ
สร้างปัญหา สร้างภาระ!!!

น้องคงเห็นไอลุงนี่ เดินๆหยุดๆ เลยชวนคุย
“เทรลที่สองเหรอครับ?”

มันจี้ดครับมันจี้ด 555
เพราะตอนสมัครรายการนี้เมื่อเมษา(ผมสมัครเป็น series) ผมที่มั่นใจสมัครมา เพราะเคยผ่าน โป่งแยง 30 โคลัมเบีย 25 นอร์ธเฟซ 50
แถมตอนสมัคร คือกำลัง trek อยู่ ebc เนปาล เป็นครั้งที่สอง

ไม่ได้หมายความว่าเก่งอะไรนะครับ
แต่แบบว่า เฮ้ย!! เราผ่านมาขนาดนี้ ลังกาหลวง น่าจะไปร่วมสนุกได้ครบระยะสิ(ฟระ)

กลับมาที่คำถาม
ไมรู้จะเอาอะไรอธิบายดี
ทั้งๆที่รู้อยู่กับตัวว่าจริงๆ คือความประมาท
เริ่มจากความประมาท ไม่ซ้อม ไปหลวงพะเยา dnf ซะ

กลับจากหลวงพะเยา อะ กลับตัวกลับใจ ฟิตอยู่เดือนครึ่ง ร่างกายกำลังเริ่มโอเค
เกิดพลาด ข้อเท้าเจ็บ
ซ้อมไม่ได้ ความฟิตดำดิ่งตั้งแต่นั้นมา

แต่ไม่ว่าจะอธิบายอะไรไป
สิ่งที่แสดงออกให้สวีปเปอร์เห็น คือความไม่ฟิต
ซึ่งเสียงดังกว่าเหตุผลใดๆ
T___T

แล้วจะมาทำไมอีก?

ก็อยากขึ้นลังกาหลวง!! 55
ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่า ไปๆหยุดๆแบบนี้ ยังน่าจะถึงทันเวลา cut-off
ถ้าไปทันเวลา เค้าจะปล่อยเราขึ้นลังกาหลวง

อ้อ เช้านี้มีฝนด้วย
ไม่รู้คนอื่นเป็นไง แต่ผมชอบวิ่งกลางฝน มันเย็นดี

ตอนออกจากทางถนน เข้าสู่ทางเทรล
มาได้ 6 km แล้ว ใช้เวลาไปชั่วโมงครึ่ง
….อีก 2.3 km กับเหลืออีกชั่วโมงครึ่ง

เฮ้ย แค่นี้เอง ทันสิทัน สบายแระ

ไม่ทันครับ!!

CP1 อยู่สูงจากหัวผมขึ้นไปประมาณ 10 เมตร ตอนนั้น 7:59 น.

ทีมงานตะโกนลงมา “ไม่ทันแล้วนะครับ”

T__T

แล้วรายงานทางว.กัน 2-3 รอบ ดังๆชัดๆเคลียร์ ได้ยินลงมาตรงที่ผมยืน

“ ยืนยัน CP1 dnf สามคนนะครับ เบอร์… “

เหมือนแทงจำหน่ายยังไงไม่รู้

อยากจะวิ่งขึ้นไปบอกว่า“ผมยังไม่ตายยยยย”
.
.
.

เอ้า จบก็จบ มาได้แค่นี้ก็ประมาณนึงละวะ

ออกอาการโกรธตัวเองนิดนึง >___<~

อีกสองท่าน มาถึงก่อน cut-off เป็นสิบนาที แต่ตัดสินใจ หยุดตรงนี้ เพราะประเมินว่า ถ้าไป dnf ข้างหน้า การลงจะยากกว่าลงจากตรงนี้ และมีท่านนึงมีปัญหาเล็กๆเรื่องการลง

เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดนะครับ
ยอดเยี่ยมมาก ในสายตาผม

(ไอลุงที่นั่งหอบอยู่นี่ ถ้าเค้าให้ไปต่อ ยังจะไปอยู่นะ 555 ไม่ค่อยรู้เรื่อง )

น้องต่อกับน้องดวง สวีปเปอร์ แยกตัวไป ไล่ตามนักวิ่งต่อ

นั่งเล่นอยู่แป๊บนึง สักครึ่งชั่วโมง ก็ขอทีมงานลงมาก่อน
กลับลงมาทางที่ไต่ขึ้นไปแหละครับ
ลงมากับอีกสองท่านที่ไม่ไปต่อ

ขาขึ้นมันชันโคตรๆ
ขาลงก็ลื่นฝุดๆ
ผมไถลลงเขามาไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง ในช่วง 2 กิโลกว่าๆ
-”-

มาเจอทางถนน ก็วิ่งกลับต่อลงมาอีก 3 กิโล

เจอทีมงาน ที่ถนนใหญ่ นั่งรถต่อมาเพื่อจะพบว่า

คุณบาส เข้าที่หนึ่ง เอ็มมานูเอล(ไม่แน่ใจว่าจำชื่อถูกไหม) เข้าที่สอง ไปเรียบร้อย กับระยะ 36 กิโล

เย้ย เดี๋ยวสิ ผมขึ้น 8 ลง 5 ต่อกระบะอีก 3

มาไม่ทันเฮียบาส ที่วิ่ง 36 กิโล จบแล้ว - -;

อะไรหนิ 555 กลุ้มใจใครดี

จะไปเล่าให้คนที่หมู่บ้านฟังไงดี

ว่า เป็น dnf คนแรกของงาน

อาบน้ำดีกว่า แล้วมานั่งเล่นตรงสนามหญ้า นั่งปรบมือให้คนเข้าเส้น จนสี่โมงเย็น

ช่วงชั่วโมงที่เก้า นักวิ่งสาวๆ ตัวเล็กๆ วิ่งกันเข้ามาเต็มเลย อู่ววหู๊ยยย เก่งกันขนาด
มาแบบสบายๆเลย

เป็นงานที่บรรยากาศดีครับ ตรงกะคาแรกเตอร์ของป๋าคมรัฐที่เป็นผู้ใหญ่ใจดี และบวกด้วยความเคร่งครัดในความปลอดภัยของสตาฟ แถมด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสของทีมงาน ชอบๆ

อ้อ แล้วผมพบว่า ทีม TET มีผู้ทรงพลังประจำเผ่าเต็มไปหมด แถมอึดกันแทบทุกคน
และมองเห็นคร่าวๆว่า หลายคนเป็นช่างภาพฝีมือดี

แล้วมาทำไม...

เอ้า ก็จะมาขึ้นลังกาหลวงไง แค่โดนเอาออกก่อน

DNF เกิดได้จากหลายเหตุ

แต่ DNF เกิดผลทันที จากการที่เราไปไม่ทันเวลาที่กำหนด เท่านั้นเอง

ไม่มากไม่มายไปกว่านั้น

ถ้าไม่อยากโดน DNF แค่คราวหน้า มาก่อนเวลาที่กำหนด

เท่านั้นเอง

ขอบคุณทีมงานทุกๆท่านนะครับ ทั้งน้องดวง น้องต่อ น้องนิค
ทีมงานที่ cp1
ข่างภาพ ที่ไปยืนเงียบๆบนยอดดอย รอนักวิ่งจนคนสุดท้าย
คุณโน๊ต ที่ให้กำลังใจตลอด แม้แต่ตอนที่กลับมาเดินหน้าแห้งอยู่บริเวณงาน
และป๋าคมรัฐด้วยครับ

ปีหน้า จะหา qualified ใหม่มาสมัครครับ ไม่กินบุญเก่าละ

รับผมด้วยน้าาาาาาาา

อยากขึ้นลังกาหลวง

.
.
.
.
ในภาพ
เป็นสองสวีปเปอร์ที่เตรียมเดินทางออกจาก cp1

ก้าวไปหาตะวันพอดี เลยเก็บภาพไว้