เล่าไว้ในเพจ TET for wild กรกฎา 59
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1072428819489646&set=o.1695427930735077&type=3&theater
เรื่องเล่าจากแนวหลัง
จริงๆก่อนมาก็หวั่นๆมาด้วยอะไรสักอย่างกวนใจ ว่าอาจวิ่งไม่จบ
ดูจาก qualify ก็ผ่านอยู่นะ
เคยไปมาก็หลายภูเขา
วิ่งก็หลายเทรลแล้ว เอาตัวรอดมาได้เรื่อยเปื่อย
แต่...งานนี้.....งือออออออ dnf ครับ
เอาข้อดีที่สุด ของงานนี้ก่อนครับ เอาเทียบกับงานอื่นได้เลย
-ทางวิ่งสวยโคตรครับ ชอบมากกกกกกกกกก ทั้งทางขึ้นและทางลง
-ผู้จัดเป็นสายป่า คนกลุ่มนี้ ลักษณะเด่นมากในสายตาผม คือเค้าเอื้อเฟื้อต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมทางมากๆ เรื่องรายละเอียดของขยะ เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ทั้งการไม่ใช้แก้วน้ำ และการไมให้เหลืออะรทิ้งไว้ในป่า
เล่าไว้เป็นเคสนิดนึง
ผมใช้วิธีขับรถมาจากกรุงเทพครับ
ขับมาคืนวันศุกร์ ถึงเช้าวันเสาร์
"การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่เรื่องสมควรเลย สำหรับการวิ่งขนาดนี้"
อันนี้เอาไว้เตือนตัวเองหนักๆ
เพราะอายุก็ถูกจัดมาอยู่ในรุ่นลายครามแล้ว - -;
คราวหน้าต้องจัดการเดินทางให้เหมาะกว่านี้
ทางขึ้น
ไต่ขึ้นไปกว่า 800 เมตร นับความสูงสุทธินะครับ ไม่ใช่สะสม สะสมนี่ น่าจะพันกว่า
10 กม แรกต้องไปให้ถึงในสามชั่วโมง ได้ข้อมูลมาแบบนั้น
ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง ได้มาแค่ 5 โล เอาแล้วว...
เก้าโมงเช้า ยังไม่ถึงดอยหลวง ก็คิดว่า คงจบแค่ cp1
ซักพักมีเพื่อนวิ่งไล่หลังมา บอกว่า เค้าให้ถึงสิบโมง
เหยยย รีบดิ รีบ
มาตีลังกาเอาตรงทางลง cp1 ครับ ดอกแรกเลย อุตส่าห์มาช้าๆแล้วนะ แต่เห็น cp แล้วตื่นเต้นน่ะ ^^
ผมเข้าใจว่าผมเป็นคนเกือบๆสุดท้ายที่ออกจาก cp1
(เหมือนจะมีตามมาอีกท่าน แต่ไม่รู้ถอยกลับไปตอนไหน)
ซักพัก น้อง sweeper วิ่งตามมา แนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
แต่ความที่ผมเริ่มหูอื้อตาลาย ต้องถามกันอีกรอบ ชื่อไรนะ
"ดวงครับ ดวงดี"
ดูทรงคุ้นๆ เหมือนเคยอ่านรีวิวลังกาหลวงรึไงนี่ล่ะ
ขาลง
เลยจากดอยหนอก
อาการหายใจไม่ทัน เริ่มมา
นี่มันดอยหนอก ไม่ใช่ebc ทำไมตรูหายใจถึ่แบบนี้เนี่ย?!!
ลองพักดู การหายใจดีขึ้น พอไปต่อ เอาอีกแระ
มันแปลกตรงกล้ามเนื้อยังทำงานดีอยู่นะ ให้ห้อยให้โหนเชือก ได้ทั้งนั้น แต่การหายใจผิดปกติมาก
ตอนนี้ผมเริ่มรั้งท้าย และช้าลงมาก
มีน้องดวงคอยนำทาง และคอยดูอาการมาให้ตลอดทางลง
นั่งพักไปพักมา มีน้องทีมงานอีกท่านเดินตามลงมา
เข้าใจว่าชื่อน้องไกด์ ไม่รู้จำมาถูกรึเปล่า
น้องเค้าตามเก็บริบบิ้นทางวิ่งครับ เก็บละเอียดมาก
อันนี้เป็นงานเบื้องหลังที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
ต้อง dnf นี่ล่ะ ถึงได้เห็น 55555
เป็นหลักฐานยืนยัน สำหรับความรับผิดชอบของทีมงานที่มีต่อป่าครับ เราวิ่งด้วยก็สบายใจ
น้องเค้าแบ่งน้ำมาให้กินด้วย ขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ
ในตัวผม สองลิตรกว่า หมดไปตั้งแต่เจอน้ำตก
ออกมาจนเจอรถอีแต๊ก ผมเป็นคนสุดท้าที่ออกมาจากป่า
ทีมงานรอกันอยู่ รวมทั้งนักวิ่งท่านอืนด้วย ต้องขออภัยไว้ตรงนี้เช่นกันครับ ที่ทำให้รอนาน
กลับมาถึงงาน ทีมงานชุดใหญ่กันอยู่ที่โรงเรียน
คุณหมออีมเอาเหรียญมาให้
เป็นเกียรติมากครับ
แต่ก็มีความเสียดาย ที่ตัวเองวิ่งได้ไม่จบ
ตอนนั่งรีวิว ก็ยังถามตัวเองอยู่ ว่ามันเกิดะไรขึ้น
จะด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่
คราวหน้า จะเข้ามาเส้นชัย เอาเสื้อ finisher ให้ได้ครับ
ขอบคุณทีมงานทุกๆท่านครับ ตั้งแต่ที่โรงเรียน ยันตากล้องสาวที่อยู่บนยอดสูงสุดของดอยหลวง เลนส์ยาวเท่าไหร่ไม่รู้ แต่หน้าเลนส์น่าจะ 82 คือ แข็งแรงมากอะครับ แบกขึ้นไปหลายตัวด้วยสิ
Special thank สำหรับน้องดวงนะครับ สัญญาว่าคราวหน้าจะไม่มาเป็นภาระอีกแล้ว
ในภาพเป็นทีมงาน cp3 บนรถอีแต็กครับ
เอาข้อดีที่สุด ของงานนี้ก่อนครับ เอาเทียบกับงานอื่นได้เลย
-ทางวิ่งสวยโคตรครับ ชอบมากกกกกกกกกก ทั้งทางขึ้นและทางลง
-ผู้จัดเป็นสายป่า คนกลุ่มนี้ ลักษณะเด่นมากในสายตาผม คือเค้าเอื้อเฟื้อต่อสิ่งแวดล้อมและเพื่อนร่วมทางมากๆ เรื่องรายละเอียดของขยะ เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ทั้งการไม่ใช้แก้วน้ำ และการไมให้เหลืออะรทิ้งไว้ในป่า
เล่าไว้เป็นเคสนิดนึง
ผมใช้วิธีขับรถมาจากกรุงเทพครับ
ขับมาคืนวันศุกร์ ถึงเช้าวันเสาร์
"การพักผ่อนน้อย ไม่ใช่เรื่องสมควรเลย สำหรับการวิ่งขนาดนี้"
อันนี้เอาไว้เตือนตัวเองหนักๆ
เพราะอายุก็ถูกจัดมาอยู่ในรุ่นลายครามแล้ว - -;
คราวหน้าต้องจัดการเดินทางให้เหมาะกว่านี้
ทางขึ้น
ไต่ขึ้นไปกว่า 800 เมตร นับความสูงสุทธินะครับ ไม่ใช่สะสม สะสมนี่ น่าจะพันกว่า
10 กม แรกต้องไปให้ถึงในสามชั่วโมง ได้ข้อมูลมาแบบนั้น
ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง ได้มาแค่ 5 โล เอาแล้วว...
เก้าโมงเช้า ยังไม่ถึงดอยหลวง ก็คิดว่า คงจบแค่ cp1
ซักพักมีเพื่อนวิ่งไล่หลังมา บอกว่า เค้าให้ถึงสิบโมง
เหยยย รีบดิ รีบ
มาตีลังกาเอาตรงทางลง cp1 ครับ ดอกแรกเลย อุตส่าห์มาช้าๆแล้วนะ แต่เห็น cp แล้วตื่นเต้นน่ะ ^^
ผมเข้าใจว่าผมเป็นคนเกือบๆสุดท้ายที่ออกจาก cp1
(เหมือนจะมีตามมาอีกท่าน แต่ไม่รู้ถอยกลับไปตอนไหน)
ซักพัก น้อง sweeper วิ่งตามมา แนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
แต่ความที่ผมเริ่มหูอื้อตาลาย ต้องถามกันอีกรอบ ชื่อไรนะ
"ดวงครับ ดวงดี"
ดูทรงคุ้นๆ เหมือนเคยอ่านรีวิวลังกาหลวงรึไงนี่ล่ะ
ขาลง
เลยจากดอยหนอก
อาการหายใจไม่ทัน เริ่มมา
นี่มันดอยหนอก ไม่ใช่ebc ทำไมตรูหายใจถึ่แบบนี้เนี่ย?!!
ลองพักดู การหายใจดีขึ้น พอไปต่อ เอาอีกแระ
มันแปลกตรงกล้ามเนื้อยังทำงานดีอยู่นะ ให้ห้อยให้โหนเชือก ได้ทั้งนั้น แต่การหายใจผิดปกติมาก
ตอนนี้ผมเริ่มรั้งท้าย และช้าลงมาก
มีน้องดวงคอยนำทาง และคอยดูอาการมาให้ตลอดทางลง
นั่งพักไปพักมา มีน้องทีมงานอีกท่านเดินตามลงมา
เข้าใจว่าชื่อน้องไกด์ ไม่รู้จำมาถูกรึเปล่า
น้องเค้าตามเก็บริบบิ้นทางวิ่งครับ เก็บละเอียดมาก
อันนี้เป็นงานเบื้องหลังที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
ต้อง dnf นี่ล่ะ ถึงได้เห็น 55555
เป็นหลักฐานยืนยัน สำหรับความรับผิดชอบของทีมงานที่มีต่อป่าครับ เราวิ่งด้วยก็สบายใจ
น้องเค้าแบ่งน้ำมาให้กินด้วย ขอบคุณไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ
ในตัวผม สองลิตรกว่า หมดไปตั้งแต่เจอน้ำตก
ออกมาจนเจอรถอีแต๊ก ผมเป็นคนสุดท้าที่ออกมาจากป่า
ทีมงานรอกันอยู่ รวมทั้งนักวิ่งท่านอืนด้วย ต้องขออภัยไว้ตรงนี้เช่นกันครับ ที่ทำให้รอนาน
กลับมาถึงงาน ทีมงานชุดใหญ่กันอยู่ที่โรงเรียน
คุณหมออีมเอาเหรียญมาให้
เป็นเกียรติมากครับ
แต่ก็มีความเสียดาย ที่ตัวเองวิ่งได้ไม่จบ
ตอนนั่งรีวิว ก็ยังถามตัวเองอยู่ ว่ามันเกิดะไรขึ้น
จะด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่
คราวหน้า จะเข้ามาเส้นชัย เอาเสื้อ finisher ให้ได้ครับ
ขอบคุณทีมงานทุกๆท่านครับ ตั้งแต่ที่โรงเรียน ยันตากล้องสาวที่อยู่บนยอดสูงสุดของดอยหลวง เลนส์ยาวเท่าไหร่ไม่รู้ แต่หน้าเลนส์น่าจะ 82 คือ แข็งแรงมากอะครับ แบกขึ้นไปหลายตัวด้วยสิ
Special thank สำหรับน้องดวงนะครับ สัญญาว่าคราวหน้าจะไม่มาเป็นภาระอีกแล้ว
ในภาพเป็นทีมงาน cp3 บนรถอีแต็กครับ

Comments
Post a Comment