เทรลก้มหน้า
Singha Ultra trail Chiangrai
เป็นรายการที่ไม่ได้อยู่ใน list
รายการที่อยากไปคือ ลังกาหลวงเทรล แต่กิจกรรมถูกยกเลิกไป
แล้วรายการนี้ที่ปิดรับสมัค รไปแล้ว จู่ๆก็รับเพิ่มมาอีกนิดหน่อ ย
เอาวะ ขอใช้เป็นที่ทดสอบร่างหน่อย ละกัน ก่อนถึงงานใหญ่
ทดสอบด้วยระยะวิ่งแค่ไหนดี
20k, 38k, 66k, 122k เค้ามีให้เลือกตามนี้
38k คือระยะที่สมัครไป เอาแค่นี้ให้รอดก่อน
ไอเดียคือ ไม่ว่าจะรอด หรือจะ dnf
ห้ามเจ็บ!!!
เดี๋ยวสิ สมัครช้าแบบนี้ แล้วจะเดินทางยังไง?
เครื่องบิน เชียงราย,เชียงใหม่ เต็ม!
รถไฟเชียงใหม่ เต็ม!
เหลือทางเลือกเดียว ขับรถไปเอง
1700 กิโลเมตร ไป-กลับ กทม.-เชียงราย - -;
เดี๋ยวนะ เดินทางเกือบสองพันโล วิ่งแค่ 38 k นี่นะ คุ้มรึ?!!
ม่ายช่ายยย
คือ… ระยะทางวิ่ง สัมพันธ์กับความพร้อมร่างกา ย
>> ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับระยะ ทางที่เดินทางไป<<
ขับรถขึ้นเหนือ ก็ ต่อนยอน ต๊ะต่อนยอน ไปเรื่อยๆ
ออกจากกทม.ค่ำๆ
หิว..แวะกิน ง่วง..แวะนอน
เลยถึงเอาสายๆ รับ bib 10 โมงเช้า แล้วนอนยาวววววว
วันวิ่ง
จุดสตาร์ทอยู่กลางไร่บุญรอด ฯ หรือที่เรียกกันว่า สิงห์ปาร์ค
ก่อนเริ่มออกตัว มีอาการตื่นเต้นคล้ายเด็กขึ ้เกียจที่เข้าสอบ แต่บังเอิญรอบนี้ อ่านหนังสือเตรียมสอบมา
ทำตัวไม่ถูก ^^;
ข้อมูลสำคัญ
จุด cut off อยู่ที่ 17.5km
ต้องไปให้ถึงจุดนี้ภายใน 5 ชั่วโมง
พวกวิ่งออกกำลังปกติ บอกสบ๊าย วิ่งแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแบบสบายๆ
แต่.. ทางเทรลมันไม่ปกติน่ะสิ
รวมถึงตัวผมเองด้วย ก็ไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไร - -;
ขอรอดครึ่งแรกให้ได้ก่อน ครึ่งหลังค่อยว่ากัน
ออกตัวจากใจกลางไร่ เวลา 6:15 วิ่งไปตามถนนเรื่อยๆ
ปกติ เวลาออกตัว ผมมักจะไปอยู่ท้ายสุด เพราะรู้ตัวว่า ไปอยู่ตรงกลาง ก็จะไปเกะกะเพื่อนๆที่อยู่ข ้างหลัง
อยู่ข้างหลังดีกว่า ตามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอคน pace เดียวกันอยู่ดี ^^
แต่คราวนี้ ดันทะลึ่งไปอยู่กลางขบวน แต่ละท่านก็สับขากันแบ่บ เอิ่มม อย่ารีบสิ ยังอีกตั้งไกล - -;
วิ่งไปพักนึง สักครึ่งชั่วโมง เย่ย ทำไมนาฬิกาบอกว่ามาได้ กิโลเดียว
อีกแป๊บนึง ถึงจุดให้น้ำที่ กม.3 ตามป้ายบอก
แน่นอนแล้ว gps ของผมรวน!!!
เอาแล้ว แล้วตรูจะรู้ระยะยังไงล่ะนี ่
ดูป้ายตามจุดให้น้ำทีละจุดเ อาละกัน - -;
เหลือแต่ข้อมูลสองอย่างจากน าฬิกา ที่พอจะเชื่อถือได้
1 เวลา (แน่ล่ะ ถ้าเวลาไม่ตรงอีก พ่อจะหมกดินไว้ตรงนั้นเลย)
2 ระดับความสูง (เจ้านี่ผิดพลาดน้อยมากในเร ื่องนี้)
ดังนั้น เรื่องระยะทางเลิกสนใจไปได้ และผมไม่สามารถจำมาเล่าได้ ว่า กม.ไหน หน้าตาเป็นไง - -”
แต่…..
ที่จำได้แม่นๆคือ สนามนี้มีเนินขึ้นลง ขึ้นลง ขึ้นลง ๆๆๆๆๆๆๆ เยอะมาก ไม่สูง แต่เยอะ
10 กม.แรก เนินพวกนี้ก็เริ่มแยกให้คนก ระจัดกระจายได้แล้ว ทั้งคนไม่ถนัดขึ้นเนิน และคนไม่ถนัดลงเนิน
ขอตั้งชื่อหน่อย
#กลุ่มเนินตอดพลัง
คือ มันไม่ได้ดูด หรือสูบพลังนักวิ่งไปในคราเ ดียว
มันตอดพลังเราไปเรื่อยๆ
ในกราฟ อย่าไปดูเนินลูกใหญ่ๆครับ ดูความหยักของเส้นไว้ สนามที่สูงไม่มาก แต่เส้นหยักๆๆนี่ ทำนักวิ่งที่ชะล่าใจ พังมาเยอะแล้ว
จังหวะแรกนึกไปถึงโคลัมเบีย หนองใหญ่ ขึ้นลงๆๆๆๆ
แต่ ทางวิ่งเกือบทั้งหมด เป็นทางรถสัญจร(บนดอย)
ดูง่ายๆครับ ตรงไหนเป็นคอนกรีตสองแนว รับกับช่วงล้อรถ ตรงนั้นชัดเจน เค้าทำไว้ให้รถตะกายขึ้น #เพราะมันชันมาก -”-
ก็ดี๊(เสียงสูง)
ได้ลองกำลังขา(แก่ๆ)
จุดให้น้ำ
เท่าที่วิ่งผ่าน ตั้งแต่ต้นจนจบ ดีทุกจุด มีน้ำ บ้าง เกลือแร่บ้าง แตงโม กล้วย ปีโป้ ข้ามต้มมัด
ผมว่าวางจุดไว้ โอเค เลย สำหรับ 38k นะ
Check point ตัวเช็ค bib เจ้าปัญหา
ไอตัวนี้ล่ะ hitech ในแง่ real time
แต่ reliability ต่ำครับ
สงสารน้องที่เป็นคนรับผิดชอ บเครื่อง เพราะนักวิ่งมาถึงเหนื่อยๆ และอยากรีบไป แต่ต้องมาออกันอยู่กับของที ่ทำงานได้บ้างไม่ได้บ้าง
พี่ๆบางคนก็เริ่มเสียงดัง น้องก็หน้าเหลือนิดเดียว
(อันนี้เล่า ข้อเท็จจริงให้ฟัง ส่วนจะคิดว่าดีแล้ว ควรใช้ต่องานหน้ามั้ย อันนี้ไม่ออกความเห็น)
เอ้า ไปกันต่อ
หลังถูกนวดด้วย เนินใหญ่ๆสองเนินใน 10km++ แรก อยู่ๆทางก็พาลงไปหาทางถนน
ช่วงถนนผมเจอเซลเลอร์มูนที่ เดินไวมาก เห็นเธออยู่ข้างหน้าไกลๆ ตามยังไงก็ไม่ทัน ได้แต่เกาะไปห่างๆ
มีกรวยตั้งไว้พอให้รถที่สวน มาสังเกตเห็นนักวิ่ง ทางเป็นเนินซึมๆไต่สูงไปเรื ่อยๆ จะวิ่ง ก็ไม่แน่ใจว่ามันพาไปถึงไหน (gps รวนไปแล้วไง) เกิดมันยาวสัก 4-5 km นี่ มีเป็นลมแน่ ถ้าวิ่งไปตลอด
มีกรวยใช่มั้ย ได้!! ใช้ให้เป็นประโยชน์ซะ
ผมใช้วิธีวิ่งสลับเดินตามกร วยแต่ละอันที่วางอยู่
วิ่งไปถึงอันหน้า แล้วเดิน
เดินไปถึงอันหน้า แล้ววิ่ง
สลับไปมา
(แต่ยังตามเซลเลอร์มูนไม่ทั นอยู่ดี)
สักครู่นึง เห็นคนกองๆกันอยูไกลๆ่
Check point ที่ 17.5 k
ใช้เวลา 2:45 ชั่วโมง
รอดแล้วเฮ้ยยยยยย
จบแล้วหนึ่งเป้าหมาย
ตามแผนที่ มีภูเขาสูงดักอยู่
ก็ พอหนึ่งหอบ กอดต้นไม้ไปสามต้น อ่า พอได้ๆ (อันนี้ประเมินตัวเอง)
แต่พอขาลง หลายท่านไม่ถนัดนัก และเนื่องด้วยทางเป็นเรียงเ ดี่ยว จึงเกิดแถวทุ่ม?! ไม่ใช่รักบี้!!
เกิดแถวเดินเรียงเดี่ยวยาวเ หยียด
พี่ข้างหน้าก็น่ารักครับ คอยบอกกลับมาตลอด ว่าใครไวให้บอก จะหลบให้แซง แต่ก็ไม่มีใครแซง
ผมเองก็ไม่ใช่ขาแรงอะไร เกิดขอแซงไป แล้วไปเป็นลมอยู่ข้างหน้า ก็กลัวชาวบ้านจะโห่เอา
- -;
แต่….
เดินตามไปสักพัก ผมพบว่า น้ำหนักตัวผมที่ค่อนข้างเยอ ะ เริ่มทำลายตัวเอง เพราะมันเป็นทางลง แล้วต้องคอยยั้งตัวให้ความเ ร็วเท่าขบวน
มันเหนื่อยมากกกกก(เสียงต่ำ )
สุดท้ายต้องยกมือขอโทษ ขอทาง แซง แล้วกลิ้งลงเขามาด้วยน้ำหนั กตัวล้วนๆ ไม่ใช่ความสามารถอะไร
ต้องขอโทษทุกท่านในแถววันนั ้นด้วยนะครับ
ส่วนมดดำที่ออกันรอเกาะหัวน ักวิ่งที่ใบไผ่ กะซุ้มไผ่เตี้ยๆ ลืมๆไปเถอะ มันเป็นแค่ฝันร้ายช่วงสั้นๆ -”-
ด้วยความที่สูงกว่าชาวบ้านน ิดนึง ผมนี่โดนกิ่งไผ่หัก ปักกลางหน้าผากเลย ขอบอก ไม่ทันเห็นจริงๆ จึ๊กก!! เข้าให้
ลงจากดอยไผ่มดดำ ก็มาเจอจุดให้น้ำ น้องที่จุดให้น้ำหน้าตาคุ้น ๆ
อ้อ ย้อนกลับทางเดิมแล้วสินะ
จากตรงนี้ไป ผมก้มหน้าก้มตาเดิน มีแรงขึ้นมาก็ออกวิ่ง ทางลงก็วิ่งลง
ทางขึ้นก็ไถขึ้นเรื่อยๆ พยายามไม่หยุด
122k กะ 66k เริ่มมาให้เห็นเรื่อยๆ
ทั้งสองกลุ่ม อยู่ในสภาพอิดโรย เพราะวิ่งข้ามวัน ข้ามคืนกันมาแล้ว
(แต่ไหง ผมดูเหนื่อยกว่าพวกเค้าเยอะ แยะ)
เดินๆวิ่งๆ ก็มาเจอสองวัยรุ่นคนดัง น้องเก่งกะน้องฟิว ผู้ซึ่งออกตัวมาไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมงแล้ว เพราะทั้งคู่ลงวิ่งในระยะ 66k
แต่ทั้งสองคน ดูสภาพยังโอเคอยู่
ขากลับ ลำธารตรงไหนที่ขามาโดดข้าม ขากลับลุยหมด ตั้งใจแบบนั้นแต่แรกละ
อ้อ แล้วจำไว้เสมอนะครับ เมื่อไหร่เราเดินอยู่ในพื้น ที่ที่เป็นหุบ คือมองไปรอบๆมีแต่ภูเขา
ให้แน่ใจได้เลย ว่า เดี๋ยวต้องไต่ขึ้น เพื่อหลุดออกจากหุบแน่
อย่าไปคาดหวังทางเดินลึกลับ เดินเรียบๆราบๆออกจากหุบเด็ ดขาด
ไต่ข้ามไปเท่านั้น!!!
ถึงจุดให้น้ำจุดสุดท้าย
“อีกสามกิโลเองครับพี่”
ครับ!!
ไม่รู้จะสนทนาต่อยังไง
จะขอต่อเหลือโลเดียว เค้าก็คงไม่ยอม
จากจุดให้น้ำจุดสุดท้าย กระดึ้บๆเข้าป่าอีกสักพัก ก็หลุดมาเจอทางลุยน้ำในตำนา น
ก่อนลงน้ำไป น้องเอนดูโร่บอกว่า จากนี้ไปก็สักสองโลครับพี่
จ่ะ!!
ตั้งแต่นาฬิการวน ผมก็เลิกเชื่อใครอีกแล้ว
จุดข้ามน้ำ หลายคนไม่ชอบ แต่ผมชอบนะ ถ้าไม่ติดว่ามีโทรศัพท์กะกุ ญแจรีโมทรถ พ่อจะลอยคอไปขึ้นฝั่งโน้น
ลุยน้ำขึ้นฝั่ง มาเจอเนินสูงๆไกลๆ
ในใจแอบคิด นี่ถ้าให้ขึ้นไอเนินนั่นอีก คงฮาน่าดู
สักพัก เห็นคนที่นำหน้าไกลๆ เดินขึ้นไป
อยากอุทานแบบวัยรุ่นมาก จังหวะนั้น
อีก landmark สินะ หึหึ
คนจำได้แน่นอนครับ ตรงตามประสงค์ แต่ชอบหรือไม่ชอบ อีกเรื่องนะ
จากยอดดอยชา (จริงๆแค่เนินเตี้ยๆ)
มองเห็นหอคอยปลายทาง
ป้ายบอกก่อนขึ้นเนิน อีก 2kmถึงเส้นชัย
ชัวร์ละ ผมมาหลงอยู่ในมิติมหัศจรรย์ เขาวงกด ไปแค่ไหน ก็เหลืออีกสองโล!!
แถมทางที่เห็น เลี้ยวไปเลี้ยวมา
เพื่อ!!
ลงมาข้างล่าง เดินม้วนไป วนมา กับถนนที่ออกแบบให้ชมความงา มของภูมิทัศน์
ขึ้นเนินอีกลูก ที่มีต้นไม้ต้นเดียวบนยอดเน ิน
สวยมั้ย สวยมาก แต่….
จังหวะเวลานั้น มันร้อนโคตรๆ
เอ้าใกล้ถึงละ
ไถไปเรื่อยๆ กลางความร้อน
เข้าเส้นชัยไปเงียบๆ
มีน้องตัวเล็กๆชุดดำ สี่ห้าท่าน ถือกรรไกรคอยตัด tag แจกเหรียญกลางอากาศร้อนอย่า งขันแข็ง
น้องกลุ่มนี้คือตัวแทนคนจัด งานแน่นอน ผมยกตำแหน่งให้ ^^
รับเสื้อเสร็จผมก็นอนตายอยู ่หน้าที่รับเสื้อนั่นล่ะ
จบละเหวย ไม่ dnf ด้วยยยย รอดเว้ยยย ไม่เจ็บด้วย
สรุป
- เส้นทาง ผมว่าดีนะ สำหรับระยะ 38 k สำหรับมือใหม่ มือกลางที่อยากลองเทรล
ทางไม่ยาก แต่ออกแรงเยอะใช้ได้
ดอยไผ่มดดำ เนินสูงๆ
- วิว
น่าจะสวยอยู่ กับนาขั้นบันได และพื้นที่เกษตรบนที่สูง
-น้ำ + อาหาร ค่อนข้างสมบูรณ์ระหว่างเส้น ทาง(ย้ำอีกครั้ง เฉพาะที่ผมประสบเท่านั้น )
- อาหารที่เส้นชัย
ถ้าต่อเนื่องกว่านี้ นักวิ่งคงพอใจกว่านี้
- เสื้อวิ่ง สวยครับ มากเลยล่ะ
เสื้ออื่นๆ ไม่มีความเห็นครับ ^^
- วิ่งแถว เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา ถ้ามาจากกทม. อย่าขับรถไปเลยครับ เหนื่อยกว่าวิ่งอีก
- เทรลก้มหน้า
เป็นรายการที่สอง ที่ตั้งหน้าตั้งตาไปข้างหน้ าเท่าน้น กล้องไม่ได้ยกขึ้นมาเลยจนวิ ่งจบ วิวก็ไม่ได้ดู จุดให้น้ำบางจุดก็ไม่ได้แวะ ข้ามเลย จะเอา finisher ให้ได้
ขอบคุณช่างภาพมา ณ ที่นี้ครับ
Singha Ultra trail Chiangrai
เป็นรายการที่ไม่ได้อยู่ใน list
รายการที่อยากไปคือ ลังกาหลวงเทรล แต่กิจกรรมถูกยกเลิกไป
แล้วรายการนี้ที่ปิดรับสมัค
เอาวะ ขอใช้เป็นที่ทดสอบร่างหน่อย
ทดสอบด้วยระยะวิ่งแค่ไหนดี
20k, 38k, 66k, 122k เค้ามีให้เลือกตามนี้
38k คือระยะที่สมัครไป เอาแค่นี้ให้รอดก่อน
ไอเดียคือ ไม่ว่าจะรอด หรือจะ dnf
ห้ามเจ็บ!!!
เดี๋ยวสิ สมัครช้าแบบนี้ แล้วจะเดินทางยังไง?
เครื่องบิน เชียงราย,เชียงใหม่ เต็ม!
รถไฟเชียงใหม่ เต็ม!
เหลือทางเลือกเดียว ขับรถไปเอง
1700 กิโลเมตร ไป-กลับ กทม.-เชียงราย - -;
เดี๋ยวนะ เดินทางเกือบสองพันโล วิ่งแค่ 38 k นี่นะ คุ้มรึ?!!
ม่ายช่ายยย
คือ… ระยะทางวิ่ง สัมพันธ์กับความพร้อมร่างกา
>> ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับระยะ
ขับรถขึ้นเหนือ ก็ ต่อนยอน ต๊ะต่อนยอน ไปเรื่อยๆ
ออกจากกทม.ค่ำๆ
หิว..แวะกิน ง่วง..แวะนอน
เลยถึงเอาสายๆ รับ bib 10 โมงเช้า แล้วนอนยาวววววว
วันวิ่ง
จุดสตาร์ทอยู่กลางไร่บุญรอด
ก่อนเริ่มออกตัว มีอาการตื่นเต้นคล้ายเด็กขึ
ทำตัวไม่ถูก ^^;
ข้อมูลสำคัญ
จุด cut off อยู่ที่ 17.5km
ต้องไปให้ถึงจุดนี้ภายใน 5 ชั่วโมง
พวกวิ่งออกกำลังปกติ บอกสบ๊าย วิ่งแค่ 2 ชั่วโมงก็ถึงแบบสบายๆ
แต่.. ทางเทรลมันไม่ปกติน่ะสิ
รวมถึงตัวผมเองด้วย ก็ไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไร - -;
ขอรอดครึ่งแรกให้ได้ก่อน ครึ่งหลังค่อยว่ากัน
ออกตัวจากใจกลางไร่ เวลา 6:15 วิ่งไปตามถนนเรื่อยๆ
ปกติ เวลาออกตัว ผมมักจะไปอยู่ท้ายสุด เพราะรู้ตัวว่า ไปอยู่ตรงกลาง ก็จะไปเกะกะเพื่อนๆที่อยู่ข
อยู่ข้างหลังดีกว่า ตามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอคน pace เดียวกันอยู่ดี ^^
แต่คราวนี้ ดันทะลึ่งไปอยู่กลางขบวน แต่ละท่านก็สับขากันแบ่บ เอิ่มม อย่ารีบสิ ยังอีกตั้งไกล - -;
วิ่งไปพักนึง สักครึ่งชั่วโมง เย่ย ทำไมนาฬิกาบอกว่ามาได้ กิโลเดียว
อีกแป๊บนึง ถึงจุดให้น้ำที่ กม.3 ตามป้ายบอก
แน่นอนแล้ว gps ของผมรวน!!!
เอาแล้ว แล้วตรูจะรู้ระยะยังไงล่ะนี
ดูป้ายตามจุดให้น้ำทีละจุดเ
เหลือแต่ข้อมูลสองอย่างจากน
1 เวลา (แน่ล่ะ ถ้าเวลาไม่ตรงอีก พ่อจะหมกดินไว้ตรงนั้นเลย)
2 ระดับความสูง (เจ้านี่ผิดพลาดน้อยมากในเร
ดังนั้น เรื่องระยะทางเลิกสนใจไปได้
แต่…..
ที่จำได้แม่นๆคือ สนามนี้มีเนินขึ้นลง ขึ้นลง ขึ้นลง ๆๆๆๆๆๆๆ เยอะมาก ไม่สูง แต่เยอะ
10 กม.แรก เนินพวกนี้ก็เริ่มแยกให้คนก
ขอตั้งชื่อหน่อย
#กลุ่มเนินตอดพลัง
คือ มันไม่ได้ดูด หรือสูบพลังนักวิ่งไปในคราเ
มันตอดพลังเราไปเรื่อยๆ
ในกราฟ อย่าไปดูเนินลูกใหญ่ๆครับ ดูความหยักของเส้นไว้ สนามที่สูงไม่มาก แต่เส้นหยักๆๆนี่ ทำนักวิ่งที่ชะล่าใจ พังมาเยอะแล้ว
จังหวะแรกนึกไปถึงโคลัมเบีย
แต่ ทางวิ่งเกือบทั้งหมด เป็นทางรถสัญจร(บนดอย)
ดูง่ายๆครับ ตรงไหนเป็นคอนกรีตสองแนว รับกับช่วงล้อรถ ตรงนั้นชัดเจน เค้าทำไว้ให้รถตะกายขึ้น #เพราะมันชันมาก -”-
ก็ดี๊(เสียงสูง)
ได้ลองกำลังขา(แก่ๆ)
จุดให้น้ำ
เท่าที่วิ่งผ่าน ตั้งแต่ต้นจนจบ ดีทุกจุด มีน้ำ บ้าง เกลือแร่บ้าง แตงโม กล้วย ปีโป้ ข้ามต้มมัด
ผมว่าวางจุดไว้ โอเค เลย สำหรับ 38k นะ
Check point ตัวเช็ค bib เจ้าปัญหา
ไอตัวนี้ล่ะ hitech ในแง่ real time
แต่ reliability ต่ำครับ
สงสารน้องที่เป็นคนรับผิดชอ
พี่ๆบางคนก็เริ่มเสียงดัง น้องก็หน้าเหลือนิดเดียว
(อันนี้เล่า ข้อเท็จจริงให้ฟัง ส่วนจะคิดว่าดีแล้ว ควรใช้ต่องานหน้ามั้ย อันนี้ไม่ออกความเห็น)
เอ้า ไปกันต่อ
หลังถูกนวดด้วย เนินใหญ่ๆสองเนินใน 10km++ แรก อยู่ๆทางก็พาลงไปหาทางถนน
ช่วงถนนผมเจอเซลเลอร์มูนที่
มีกรวยตั้งไว้พอให้รถที่สวน
มีกรวยใช่มั้ย ได้!! ใช้ให้เป็นประโยชน์ซะ
ผมใช้วิธีวิ่งสลับเดินตามกร
วิ่งไปถึงอันหน้า แล้วเดิน
เดินไปถึงอันหน้า แล้ววิ่ง
สลับไปมา
(แต่ยังตามเซลเลอร์มูนไม่ทั
สักครู่นึง เห็นคนกองๆกันอยูไกลๆ่
Check point ที่ 17.5 k
ใช้เวลา 2:45 ชั่วโมง
รอดแล้วเฮ้ยยยยยย
จบแล้วหนึ่งเป้าหมาย
ตามแผนที่ มีภูเขาสูงดักอยู่
ก็ พอหนึ่งหอบ กอดต้นไม้ไปสามต้น อ่า พอได้ๆ (อันนี้ประเมินตัวเอง)
แต่พอขาลง หลายท่านไม่ถนัดนัก และเนื่องด้วยทางเป็นเรียงเ
เกิดแถวเดินเรียงเดี่ยวยาวเ
พี่ข้างหน้าก็น่ารักครับ คอยบอกกลับมาตลอด ว่าใครไวให้บอก จะหลบให้แซง แต่ก็ไม่มีใครแซง
ผมเองก็ไม่ใช่ขาแรงอะไร เกิดขอแซงไป แล้วไปเป็นลมอยู่ข้างหน้า ก็กลัวชาวบ้านจะโห่เอา
- -;
แต่….
เดินตามไปสักพัก ผมพบว่า น้ำหนักตัวผมที่ค่อนข้างเยอ
มันเหนื่อยมากกกกก(เสียงต่ำ
สุดท้ายต้องยกมือขอโทษ ขอทาง แซง แล้วกลิ้งลงเขามาด้วยน้ำหนั
ต้องขอโทษทุกท่านในแถววันนั
ส่วนมดดำที่ออกันรอเกาะหัวน
ด้วยความที่สูงกว่าชาวบ้านน
ลงจากดอยไผ่มดดำ ก็มาเจอจุดให้น้ำ น้องที่จุดให้น้ำหน้าตาคุ้น
อ้อ ย้อนกลับทางเดิมแล้วสินะ
จากตรงนี้ไป ผมก้มหน้าก้มตาเดิน มีแรงขึ้นมาก็ออกวิ่ง ทางลงก็วิ่งลง
ทางขึ้นก็ไถขึ้นเรื่อยๆ พยายามไม่หยุด
122k กะ 66k เริ่มมาให้เห็นเรื่อยๆ
ทั้งสองกลุ่ม อยู่ในสภาพอิดโรย เพราะวิ่งข้ามวัน ข้ามคืนกันมาแล้ว
(แต่ไหง ผมดูเหนื่อยกว่าพวกเค้าเยอะ
เดินๆวิ่งๆ ก็มาเจอสองวัยรุ่นคนดัง น้องเก่งกะน้องฟิว ผู้ซึ่งออกตัวมาไม่ต่ำกว่า 15 ชั่วโมงแล้ว เพราะทั้งคู่ลงวิ่งในระยะ 66k
แต่ทั้งสองคน ดูสภาพยังโอเคอยู่
ขากลับ ลำธารตรงไหนที่ขามาโดดข้าม ขากลับลุยหมด ตั้งใจแบบนั้นแต่แรกละ
อ้อ แล้วจำไว้เสมอนะครับ เมื่อไหร่เราเดินอยู่ในพื้น
ให้แน่ใจได้เลย ว่า เดี๋ยวต้องไต่ขึ้น เพื่อหลุดออกจากหุบแน่
อย่าไปคาดหวังทางเดินลึกลับ
ไต่ข้ามไปเท่านั้น!!!
ถึงจุดให้น้ำจุดสุดท้าย
“อีกสามกิโลเองครับพี่”
ครับ!!
ไม่รู้จะสนทนาต่อยังไง
จะขอต่อเหลือโลเดียว เค้าก็คงไม่ยอม
จากจุดให้น้ำจุดสุดท้าย กระดึ้บๆเข้าป่าอีกสักพัก ก็หลุดมาเจอทางลุยน้ำในตำนา
ก่อนลงน้ำไป น้องเอนดูโร่บอกว่า จากนี้ไปก็สักสองโลครับพี่
จ่ะ!!
ตั้งแต่นาฬิการวน ผมก็เลิกเชื่อใครอีกแล้ว
จุดข้ามน้ำ หลายคนไม่ชอบ แต่ผมชอบนะ ถ้าไม่ติดว่ามีโทรศัพท์กะกุ
ลุยน้ำขึ้นฝั่ง มาเจอเนินสูงๆไกลๆ
ในใจแอบคิด นี่ถ้าให้ขึ้นไอเนินนั่นอีก
สักพัก เห็นคนที่นำหน้าไกลๆ เดินขึ้นไป
อยากอุทานแบบวัยรุ่นมาก จังหวะนั้น
อีก landmark สินะ หึหึ
คนจำได้แน่นอนครับ ตรงตามประสงค์ แต่ชอบหรือไม่ชอบ อีกเรื่องนะ
จากยอดดอยชา (จริงๆแค่เนินเตี้ยๆ)
มองเห็นหอคอยปลายทาง
ป้ายบอกก่อนขึ้นเนิน อีก 2kmถึงเส้นชัย
ชัวร์ละ ผมมาหลงอยู่ในมิติมหัศจรรย์
แถมทางที่เห็น เลี้ยวไปเลี้ยวมา
เพื่อ!!
ลงมาข้างล่าง เดินม้วนไป วนมา กับถนนที่ออกแบบให้ชมความงา
ขึ้นเนินอีกลูก ที่มีต้นไม้ต้นเดียวบนยอดเน
สวยมั้ย สวยมาก แต่….
จังหวะเวลานั้น มันร้อนโคตรๆ
เอ้าใกล้ถึงละ
ไถไปเรื่อยๆ กลางความร้อน
เข้าเส้นชัยไปเงียบๆ
มีน้องตัวเล็กๆชุดดำ สี่ห้าท่าน ถือกรรไกรคอยตัด tag แจกเหรียญกลางอากาศร้อนอย่า
น้องกลุ่มนี้คือตัวแทนคนจัด
รับเสื้อเสร็จผมก็นอนตายอยู
จบละเหวย ไม่ dnf ด้วยยยย รอดเว้ยยย ไม่เจ็บด้วย
สรุป
- เส้นทาง ผมว่าดีนะ สำหรับระยะ 38 k สำหรับมือใหม่ มือกลางที่อยากลองเทรล
ทางไม่ยาก แต่ออกแรงเยอะใช้ได้
ดอยไผ่มดดำ เนินสูงๆ
- วิว
น่าจะสวยอยู่ กับนาขั้นบันได และพื้นที่เกษตรบนที่สูง
-น้ำ + อาหาร ค่อนข้างสมบูรณ์ระหว่างเส้น
- อาหารที่เส้นชัย
ถ้าต่อเนื่องกว่านี้ นักวิ่งคงพอใจกว่านี้
- เสื้อวิ่ง สวยครับ มากเลยล่ะ
เสื้ออื่นๆ ไม่มีความเห็นครับ ^^
- วิ่งแถว เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา ถ้ามาจากกทม. อย่าขับรถไปเลยครับ เหนื่อยกว่าวิ่งอีก
- เทรลก้มหน้า
เป็นรายการที่สอง ที่ตั้งหน้าตั้งตาไปข้างหน้
ขอบคุณช่างภาพมา ณ ที่นี้ครับ
Comments
Post a Comment